วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2551

The Fall (2006)


The Fall (2006), พลังฝันภวังค์รัก (๒๕๔๙)


งานกำกับภาพยนตร์ชิ้นที่สองของ ทาร์เซ็ม ซิงห์ ผู้กำกับชาวอินเดียที่เคยสร้างชื่อมากับองค์ประกอบศิลป์สุดอลังการในงานชิ้นแรกของเขา The Cell เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๓ โดยคราวนี้ทาร์เซ็ม ก็ยังพกพาจุดขายอันโดดเด่นของเขามามอบให้แก่ผู้ชมอีกครั้งหนึ่ง และน่าจะเรียกได้ว่าน่าประทับใจมากกว่าเดิมเสียอีก โดย The Fall เป็นภาพยนตร์ที่ออกฉายครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ แต่เพิ่งเปิดตัวในตลาดใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาในวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๑ และเข้าฉายในบ้านเราเมื่อ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๑ ซึ่งก็ต้องขอบคุณเครือเอเพ็กซ์มา ณ ที่นี้ด้วยที่นำหนังนอกกระแสดีๆมาให้นักดูหนังชาวไทยได้สัมผัสอยู่เสมอมา ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

ตัวหนังใช้โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในลอส แอนเจลิส ช่วงปี ค.ศ. 1920 เป็นฉากหลัง โดยตัวละครเอกเป็นเด็กหญิงเชื้อสายอินเดียชื่อ อเล็กซานเดรีย ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่เข้าพักรักษาอาการบาดเจ็บที่เธอได้รับจากการพลัดตกลงมาจากต้นส้มขณะกำลังช่วยแม่เก็บผล วันหนึ่งอเล็กซานเดรียได้พบกับ รอย วอล์คเกอร์ สตั๊นท์แมนหนุ่มที่เข้าพักรักษาตัวเพราะประสบอุบัติเหตุระหว่างถ่ายทำจนขาหัก ทั้งสองได้ทำความรู้จักกันผ่านนิทานของรอย ซึ่งได้สร้างโลกใบใหม่และเพื่อนอีกมากมายในจินตนาการของเด็กน้อย (ซึ่งเธอนำเอาบุคคลที่พบเจอในชีวิตจริงมารับบทเป็นตัวละครแต่ละตัว) ทั้งสองออกผจญภัยผ่านเทพนิยายอันสนุกสนานของวัยเยาว์ และโลกแห่งความเป็นจริงอันมืดหม่นของผู้ใหญ่ไปด้วยกัน จนกระทั่งได้เรียนรู้ในท้ายที่สุดว่า ไม่ว่าชีวิตจะตกต่ำหรือดูด้อยค่าเพียงใด มนุษย์ทุกคนก็ยังคงมีความสำคัญในสายตาของใครบางคนอยู่เสมอ 


The Fall น่าจะเรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของทาร์เซ็มในอาชีพผู้กำกับภาพยนตร์ เนื่องจากได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามจากผู้ชมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นฉากในจินตนาการของอเล็กซานเดรีย ที่สวยงามและอลังการตามมาตรฐานที่เขาเคยทำได้มาแล้วใน The Cell แต่ที่สำคัญคือยังมีบทชีวิตจริงที่สามารถสะกดผู้ชมให้ติดตามเอาใจช่วยตัวละครในการเผชิญปัญหาชีวิตได้ไม่แพ้ความตื่นเต้นของการผจญภัยในโลกแห่งความฝัน จุดนี้เองที่ทาร์เซ็มทำได้ดีกว่างานชิ้นแรกของเขาอย่างน่าชื่นชม ทีมนักแสดงต่างก็ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดีและช่วยทำให้ผู้ชมเกิดความรักในตัวละคร โดยเฉพาะคาทินคา อุนรานู นักแสดงเด็กชาวโรมาเนียนที่มีอายุเพียง 8 ขวบเท่านั้นในขณะถ่ายทำภาพยนตร์ (เกิดปีค.ศ. 1997) ซึ่งสามารถแสดงได้อย่างน่ารักและเป็นธรรมชาติจนผู้เขียนเองแทบไม่เชื่อว่ากำลังรับชม "การแสดง" อยู่ในขณะที่ภาพยนตร์กำลังฉาย

ตัวหนังอาจมีจุดด้อยอยู่ในช่วงท้าย ที่จำเป็นต้องเดินเรื่องเข้าสู่ไคลแม็กซ์สุดท้ายซึ่งว่าด้วยความหม่นเศร้าและสับสนในจิตใจของตัวละคร มีการเล่าเรื่องที่รวบรัดรวดเร็วจนผิดจากอารมณ์แช่มช้าที่ปูมาเกือบตลอดเรื่องไปไม่น้อย อีกทั้งยังมีฉากที่ทำร้ายจิตใจของผู้ชมอยู่มากจนเกือบจะเกินพอดี อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกทรมานในใจที่ผู้ชมได้รับนั้น ก็เกิดมาจากความผูกพันที่มีต่อตัวละคร และการเข้าถึงสภาพจิตใจของตัวละครเช่นกัน ซึ่งก็นับว่าผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการสะกดผู้ชมจนเรียกได้ว่า "อยู่หมัด" ส่วนฉากจบของเรื่องนั้น ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าค่อนข้างด้อยซึ่งพลังในการทิ้งท้ายให้น่าประทับใจ แม้สารที่แฝงมาจะช่วยเติมเต็มเนื้อเรื่องได้ดีแล้วก็ตาม

โดยรวมแล้ว The Fall เป็นภาพยนตร์ที่คนรักหนังควรได้รับชม เนื่องจากมีองค์ประกอบหลักๆที่ดีพร้อมไม่ว่าจะเป็นการแสดง, บทภาพยนตร์, การถ่ายภาพ, องค์ประกอบศิลป์ และแง่คิดที่สำคัญในการดำเนินชีวิต นอกจากนั้นแล้วยังยิงคำถามถึงผู้ชมทุกคน ว่ายังคงมี "ธาตุเด็ก" ของอเล็กซานเดรียหลงเหลืออยู่ในความรู้สึกมากน้อยเพียงใด หรือปล่อยให้ภาระหน้าที่และความคาดหวังในชีวิต เข้าเกาะกุมจิตใจ จนกลายเป็นผู้ใหญ่ที่เศร้าหมองอย่างรอยไปเสียแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น: